วัดสองพี่น้อง
ข้อมูลสถานแหล่งท่องเที่ยว
วัดสองพี่น้อง ตั้งอยู่ที่ ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ไม่ปรากฏข้อมูลที่ระบุช่วงเวลาการสร้างที่แน่ชัด แต่มีตำนานท้องถิ่น กล่าวว่าวัดนี้สร้างก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา เหตุจากเจ้าอ้ายพระยา เจ้ายี่พระยาและเจ้าสามพระยา เป็นพี่น้องแย่งชิงราชสมบัติกัน เจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยาสิ้นพระชนม์ทั้งคู่ เจ้าสามพระยาจึงได้ครองเมือง และสร้างปรางค์ถวายแก่เจ้าอ้ายพระยา และสร้างเจดีย์ถวายเจ้ายี่พระยา ตำนานนี้เป็นเพียงเรื่องเล่าพื้นบ้านสืบต่อกันมาเท่านั้น ไม่มีเอกสารทางประวัติศาสตร์ยืนยันแต่อย่างใด จากหลักฐานทางโบราณคดีที่พบกำหนดอายุการสร้างวัดนี้ในสมัยอยุธยาตอนต้น หรือราวพุทธศตวรรษที่ ๑๙-๒๐ และมีการใช้ประโยชน์พื้นที่วัด รวมทั้งการสร้างอาคารและส่วนประกอบอื่นๆ เรื่อยมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ ๒๒ วัดจึงถูกทิ้งร้างไป และมีการกลับมาใช้พื้นที่วัดใหม่อีกครั้งในสมัยปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชหัตถเลขาเกี่ยวกับวัดนี้ไว้เมื่อครั้งเสด็จประพาสเมืองสรรคบุรี พ.ศ. ๒๔๔๔ ว่า “...วัดสองพี่น้องนั้นเห็นจะไม่ใช่สองคนพี่น้องสร้าง เปนวัดสองวัดติดกัน และเห็นกำแพงเหลื่อมกันอยู่...” และ “... วัดสองพี่น้องนั้นมีพระปรางค์เขมรยังดีอยู่ไม่ทลาย ในห้องปรางค์มีพระพุทธรูปซึ่งชำรุดตอนล่าง องค์หนึ่งตอนบนดี หน้าตาเปนพระชั้นนครไชยศรี บางทีจะชำรุดมาเก่าแล้วจึงเอาขึ้นไปซ่อนไว้เสียบนพระปรางค์ ตอนล่างก็เห็นจะก่อประกอบ ได้ให้ค้นดูหนักไม่พบๆ แต่พระชงฆ์ ๒ ข่างเปน พระแปลกดีมาก รูปนี้ไม่เคยเห็นใหญ่ถึงเท่านั้น ได้ให้ส่งไปกรุงเทพฯ อาการกิริยาที่สร้างวัดนี้เหมือนเมืองลพบุรีทุกอย่าง คือมีพระเจดีย์รูปต่างๆ รายรอบ ๒ รอบ แลพระปรางค์เฟืองตามมุม เป็นต้น วัดสองพี่น้องนั้นเห็นจะไม่ใช่สองพี่น้องสร้าง เปนวัดสองวัดติดกัน และกำแพงเหลื่อมกันอยู่ วัดเหล่านี้ไม่เก่าเหมือนวันพระมหาธาตุทั้งนั้น...”
ภายในวัดมีสิ่งสำคัญ ได้แก่ ปรางค์เป็นประธาน ซึ่งมีเรือนธาตุที่ประดับซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นภายในซุ้ม มีระเบียบคดล้อมรอบปรางค์ และมีการประดิษฐานพระพุทธรูปตามแนวระเบียงคด ส่วนวิหารนั้นที่เหลือเพียงชั้นฐาน และยังมีเจดีย์ที่มีเรือนธาตุแปดเหลี่ยมซึ่งเป็นลักษณะเจดีย์ที่พบได้เมืองสรรคบุรี จากรูปทรงขององค์ปรางค์ในวัดสองพี่น้องนี้แสดงถึงอิทธิพลปรางค์ที่พบในแถบเมืองลพบุรี ซึ่งส่งผ่านวัฒนธรรมทะเลสาบเขมร และลวดลายปูนปั้นที่ประดับองค์ปรางค์ประธาน แสดงรูปแบบศิลปะที่ผสมผสานกันระหว่างอิทธิพลศิลปะสุโขทัยและอยุธยาตอนต้น อันอาจกำหนดอายุได้ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๒๐ กรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานวัดสองพี่น้องในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๕๒ ตอนที่ ๗๕ วันที่ ๘ มีนาคม ๒๔๗๘
ความน่าสนใจ
หนึ่งในโบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากรเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2478 และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีประวัติน่าสนใจ กล่าวกันว่าเจ้าอ้าย เจ้ายี่และเจ้าสามเป็นพี่น้องกัน เจ้าสามยุยงให้เจ้าอ้ายและเจ้ายี่รบกันเองเพื่อแย่งราชสมบัติ เมื่อเจ้าอ้ายและเจ้ายี่เสียชีวิต เจ้าสามจึงได้ครองเมืองและได้สร้างปรางค์แด่เจ้าอ้ายและสร้างเจดีย์แด่เจ้ายี่ โดยสันนิษฐานว่าสร้างก่อนกรุงศรีอยุธยา 600 ปี ต่อมาชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจบูรณปฏิสังขรณ์ จนกลายเป็นวัดที่มีพระสงฆ์พำนักตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2528 ภายในวัดยังคงมีปรางค์หลังเก่าซึ่งเป็นอนุสรณ์ให้ระลึกถึงเจ้าอ้ายซึ่งเป็นปรางค์สมัยลพบุรีองค์ใหญ่ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกประดับลายปูนปั้นอันวิจิตรงดงาม
อ้างอิง
https://www.finearts.go.th/chainatmunimuseum/ สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2566
https://thai.tourismthailand.org/ สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2566